วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิธีการติดตั้ง Drupal 7.43

สวัสดีครับ

วันนี้เรามาเรียนรู้วิธีการติดตั้ง Drupal 7.43 ลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรากันครับ ... ผมข้ามขั้นตอนการติดตั้ง XAMPP และ การสร้างฐานข้อมูล (Database) ไปเลยนะครับ 

1. Download Drupal 7.43 ได้ที่ Drupal.org
2. แตกไฟล์ drupal-7.43.zip ที่เราดาวน์โหลดมาไปไว้ที่ htdocs ให้เรียบร้อย ... ในที่นี่ผมจะตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า "drupal"


คลิกที่รูปเพื่อขยาย


3. เปิด Web Browser ขึ้นมาในที่นี้ผมใช้ Google Chrome พิมพ์ชื่อเว็บ "http://localhost/drupal" จะเข้ามายังหน้า Install Drupal


คลิกที่รูปเพื่อขยาย


4. เลือก  Standard จากนั้นคลิกปุ่ม Save and Continue 
5. เลือก English (built-in) จากนั้นคลิกปุ่ม Save and Continue 


คลิกที่รูปเพื่อขยาย

6. ถึงขั้นตอน Database configuration ใส่ค่าต่าง ๆ ดังนี้

  • Database type : MySQL, MariaDB, or equivalent
  • Database name : ใส่ชื่อ Database ที่สร้างไว้ ในที่นี่ผมสร้างชื่อ "drupaldb"(ใครยังไม่ได้สร้างกลับไปสร้างก่อนนะครับด้วย phpMyadmin)
  • Database Username : root
  • Database Password : root 
  • คลิกปุ่ม Save and Continue

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


9. ถึงขั้นตอน Configure site กำหนดค่าต่าง ๆ ดังนี้

  • Site name : ชื่อเว็บไซต์ของเรา
  • Site e-mail address : อีเมล์สำหรับรับ-ส่งข้อมูลต่าง ๆ 
  • Username : ตั้งชื่อ Account ของผู้ดูแลเว็บไซต์ 
  • E-mail address : E-mail ของผู้ดูแลเว็บไซต์ 
  • Password : รหัสผ่าน ของผู้ดูแลเว็บไซต์ 
  • Default country : เลือก Thailand
  • Default time zone : เลือก Asia/Bangkok
  • คลิกปุ่ม Save and Continue

คลิกที่รูปเพื่อขยาย
คลิกที่รูปเพื่อขยาย


10. เรียบร้อยครับ คลิกที่ Visit your new site. เพื่อดูหน้าตาของ Drupal ได้เลย


คลิกที่รูปเพื่อขยาย

11. หน้่าตา Drupal หลังจากเพ่ิงติดตั้งเสร็จใหม่ ๆ

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


บทความที่เกี่ยวข้อง


วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ใช้คำสั่ง Compare เปรียบเทียบไฟล์ PowerPoint 2 ไฟล์ให้ตรงกัน หรือต่างกันตรงไหน

สวัสดีครับ

เคยเจอสถานการณ์แบบนี้กันมั้ยครับ ... เราทำ PowerPoint เสร็จ > ส่งให้เจ้านาย/เพื่อนร่วมงานตรวจ ปรากฎว่าเจ้านาย/เพื่อนร่วมงาน แก้โน้นนี่กลับมา > เราอยากรู้ว่าเจ้านาย/เพื่อนร่วมงาน แก้ตรงไหนมาบ้าง ... ตรงไหนเหมือนตรงไหนต่าง ถ้ามีไม่กี่สไลด์ก็พอนั่งดูด้วยตาเปล่าไหว แต่ถ้ามันเป็น 60 - 70 สไลด์ล่ะจะทำยังไง ?

วันนี้เรามีวิธีช่วยเปรียบเทียบไฟล์ PowerPoint 2 ไฟล์ ว่าเหมือนหรือต่างกันตรงไหนมาให้ชมกันครับ

ยกตัวอย่าง

ผมมีไฟล์ PowerPoint 2 ไฟล์ คือ Presentation1 กับ Presentation2 ผมอยากรู้ว่า 2 ไฟล์นี้ต่างกันตรงไหน และ ต้องการจะ Merge บางส่วนของไฟล์ Presentation2 เข้ากับไฟล์ Presentation1


กับ
ไฟล์ Presentation1 ไฟล์ Presentation2

ผลลัพธ์

ไฟล์ผลลัพธ์หลังจากที่ Merge กันแล้ว

มาดูวิธีทำกัน

1. เปิดไฟล์หลักขึ้นมาก่อนในที่นี่ผมจะใช้ไฟล์ Presentation1 เป็นไฟล์หลัก
2. ไปที่ริบบอน Review > คลิกที่ปุ่ม Compare



3. เลือกไฟล์ที่ต้องการจะนำมา Merge รวม ในทีนี้ผมก็เลือกไฟล์ Presentation2




วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แก้ปัญหา Admin เมนูซ้อนกัน สำหรับ Drupal 7

สวัสดีครับ

วันนี้จะมาสอนวิธีเอาแอดมินเมนูแบบเดิม ๆ ของ Drupal ออกนะครับ สำหรับสาเหตุที่ต้องเอาออกก็เพราะว่า เมื่อเราติดตั้ง Module "Administration menu" เข้าไปแล้วจะเกิดปัญหา แอดมินเมนู ซ้อนกัน ทำให้มือใหม่อย่างเราที่งงอยู่แล้วก็ยิ่งงงเข้าไปกันใหญ่ 555+



รูปที่มีแอดมินเมนูซ้อนกัน (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย) จะเห็นว่าแอดมินเมนูด้านบนจะเป็นของที่มากับ Module "Administration menu" ส่วนแอดมินเมนูด้านล่างจะเป็นของเดิมที่มากับ Drupal ซึ่งเราจะเอาของเดิมออกป่ายยยยยย เริ่มกันเลย

1. Login เข้าแอดมิน
2. คลิกเมนู Modules
3. คลิกในส่วนของ Core Module


4. หา Module ชื่อ "Toolbar" เอาเครื่องหมายถูกออกซะ


(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

5. คลิก Save Configuration 

6. ลอง Refresh (F5) ดู จะเห็นว่าเหลือแอดมินเมนูแค่อันเดียวแล้ว หายงงล่ะเนอะ

อ้างอิง

https://www.drupal.org/node/947198

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิธี Reset password admin Drupal 7

สวัสดีครับ

วันนี้จะมาสอนวิธี Reset Password Admin สำหรับ Drupal 7 กันนะครับ สำหรับท่านที่ขี้ลืมแบบผม ... นี่ถ้าไม่ลืมเองคงไม่ได้เขียนบทความนี้ 555+ 

1. เปิด Notepad หรือโปรแกรม Editor ตัวไหนก็ได้ที่ท่านถนัด

2. ตั้งชื่อไฟล์แบบ Random เช่น "gh34tu9.php"

3. Copy Code ด้านล่างไปวาง
<?php
if (pathinfo(__FILE__, PATHINFO_FILENAME) == 'admin-pass-reset') {
  die('Please change your file name to a random string to continue');
}
define('DRUPAL_ROOT', getcwd());
require_once DRUPAL_ROOT . '/includes/bootstrap.inc';
drupal_bootstrap(DRUPAL_BOOTSTRAP_FULL);
 require_once DRUPAL_ROOT . '/includes/password.inc';
if (isset($_GET['pass']) && !empty($_GET['pass'])) {
 $newhash =  user_hash_password($_GET['pass']);
}
else {
  die('Retry with ?pass=PASSWORD set in the URL');
}

$updatepass = db_update('users') 
  ->fields(array(
    'pass' => $newhash,
//  'name' => 'admin',
// 'mail' => 'yourmail@example.com'
  ))
  ->condition('uid', '1', '=')
  ->execute();
print "Done. Please delete this file as soon as possible";  
drupal_exit();
?>
4. Save File ให้เรียบร้อย

5. Upload File ไปไว้ที่ Site Root : ถ้าไม่รู้ว่า Site Root เราอยู่ที่ไหนให้สังเกตหาไฟล์ index.php, update.php, robots.txt

6. เปิด Browser ขึ้นมาแล้วกรอก URL ดังนี้ 
"http://example.com/gh34tu9.php?pass=mypassword"
  • แทนที่ example.com เป็นชื่อเว็บเรา
  • แทนที่ mypassword เป็น password ที่เราต้องการ ... แนะนำว่าอย่ามีอักขระพิเศษ

7. ถ้าทำสำเร็จจะขึ้นข้อความ "Done. Please delete this file as soon as possible"

8. ลบไฟล์ "gh34tu9.php" ทิ้งเสียเพื่อความปลอดภัยของเว็บเราเอง

กรณีทำสำเร็จขึ้น Done. Please delete this file as soon as possible แล้วแต่ปรากฎว่ายัง Login ไม่ได้ฟ้อง Error ว่า
"Sorry, there have been more than 5 failed login attempts for this account. It is temporarily blocked." 
ให้แก้โดย

1. เข้า phpMyadmin 
2. เปิดตาราง flood ขึ้นมา 
3. ลบทุก Record ในตารางนั้นทิ้งไป (ไม่ใช่ไปลบตารางนะจ้ะ)

จบแล้วจร้าหวังว่าคงช่วยแก้ปัญหาให้กับคนขี้ลืมได้นะครับ

อ้างอิง

https://www.drupal.org/node/1556488

วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

MariaDB คืออะไร

สวัสดีครับ

เมื่อบทความที่แล้วเราพูดกันถึง System requirements ของ CMS ยี่ห้อดัง ๆ กันไป มีอยู่คำนึงที่ผมไม่เคยได้ยินก็คือ MariaDB ซึ่งเป็นเรื่องของ Database (ฐานข้อมูล) ... ก็เลยไปค้นหาข้อมูลปรากฎว่าเจ้า MariaDB นี่คือ Database ที่จะมาแทนที่ MySQL ในอนาคตนั้นเองครับ

MariaDB logo


สมัยก่อนเราจะใช้ ฐานข้อมูล MySQL คู่กับ ภาษา PHP ในการเขียนเว็บ เพราะเป็นของฟรีทั้งคู่ ต่อมา MySQL ถูกซื้อโดยบริษัท Oracle ทำให้นักพัฒนาเริ่มไม่มั่นใจว่าทาง Oracle จะยังใจดีให้ใช้ MySQL ฟรี ฟรี ต่อไปหรือเปล่า

อิตา Michael Widenius ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สร้าง MySQL ก็เลยพัฒนา MariaDB ขึ้นมา ซึ่งโครงสร้างต่าง ๆ ของ MariaDB เกือบจะเหมือนกับ MySQL เช่น พวกโครงสร้างไฟล์ โครงสร้างของ Database และ Table สามารถใช้งานของ MySQL ได้แทบจะเกือบ 100% (ก็แน่ล่ะคนสร้างคนเดียวกันนี่หว่า) และยังคงใช้ phpMyAdmin ร่วมกับ MariaDB ได้โดยไม่กระทบกับงานเดิมแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นการใช้งาน MariaDB แทนที่ MySQL แทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมเลย แม้แต่ Code ของ PHP ก็สามารถที่จะใช้งาน function ของ MySQL ได้เช่นเดิม

ประสิทธิภาพ (Performance) ของ MariaDB กับ MySQL เป็นอย่างไร ?

ผลทดสอบจากเว็บต่างประเทศ เค้าสรุปกันว่า MariaDB มีประสิทธิภาพการทำงานดีกว่า MySQL ถึง 10%

ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนจาก MySQL มาเป็น MariaDB หรือยัง ?

เนื่องจาก Hosting ในเมืองไทยยังไม่เปลี่ยนไปใช้ MariaDB ก็คงต้องรอไปก่อน แต่สำหรับท่านไหนที่มี Server เป็นของตัวเองอยากจะเปลี่ยนไปใช้ MariaDB ก็จัดการได้เลยครับ เวอร์ชั่นล่าสุดของ MariaDB ตอนนี้คือ 10.1.11 สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

อ้างอิง

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

System Requirements สำหรับ WordPress, Joomla, Drupal

สวัสดีครับ

บทความที่แล้วพูดถึงเรื่องความแตกต่างระหว่าง XAMPP ในแต่ละเวอร์ชั่น บทความนี้เลยต้องเล่าให้ฟังถึง System Requirements ของ CMS (Content Management System) ยี่ห้อดังทั้ง 3 ยี่ห้อ กันครับว่าแต่ล่ะ ยี่ห้อ มีความต้องการอะไรบ้าง

ภาพโลโก้ของ WordPress


WordPress Version 4.4.2
  • Web server : Apache 2.x ขึ้นไป
  • Database : MySQL version 5.6 ขึ้นไป
  • PHP : PHP version 5.6 ขึ้นไป
  • Module : The mod_rewrite Apache module


ภาพโลโก้ของ Joomla

Joomla Version 3.x

  • Web server : Apache 2.4 ขึ้นไป
  • Database : MySQL version 5.5 ขึ้นไป
  • PHP : PHP version 5.6 หรือ 7.0 
  • Module : The mod_rewrite Apache module

ภาพโลโก้ของ Drupal


Drupal Version 8.x

  • Web server : Apache 2.4 ขึ้นไป
  • Database : MySQL 5.5.3 ขึ้นไป
  • PHP : PHP 5.5.9  ขึ้นไป
  • Module : The mod_rewrite Apache module

Drupal Version 7.x
  • Web server : Apache 2.4 ขึ้นไป
  • Database : MySQL 5.0.15 ขึ้นไป
  • PHP : PHP 5.4  ขึ้นไป
  • Module : The mod_rewrite Apache module

สำหรับ เวอร์ชั่น ของ CMS ที่เก่ากว่านี้ เช่น Joomla 2.5.x หรือ Drupal 6.x จะไม่พูดถึงนะครับ 

ที่มา 

WordPress : https://wordpress.org/about/requirements/
Joomla : https://www.joomla.org/about-joomla/technical-requirements.html
Drupal : https://www.drupal.org/requirements

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความแตกต่างระหว่าง XAMPP for Windows 5.5.30, 5.6.15 & 7.0.2

สวัสดีครับ

ช่วงนี้กำลังจะไปเป็นผู้ช่วยวิทยากรหลักสูตร Drupal ก็เลยมารื้อฟื้นความรู้เกี่ยวกับ XAMPP อีกรอบว่าไปถึงเวอร์ชั่นไหนแล้ว ก็พบว่า ณ วันนี้ ไปถึงเวอร์ชั่น 5.5.30, 5.6.15 & 7.0.2 กันแล้ว ... เวอร์ชั่นล่าสุดที่ผมเคยเขียนบทความสอนติดตั้งก็คือเวอร์ชั่น 1.8.1 (หลายปีผ่านไปแล้ว)

ทีนี้เรามาดูกันว่าเวอร์ชั่น 5.5.30 กับ  5.6.15 กับ 7.0.2 มันมีตรงไหนที่แตกต่างกันบ้าง

XAMPP version 5.5.30 ประกอบไปด้วย 

  • Apache 2.4.17, 
  • MariaDB 10.1.9, 
  • PHP 5.5.30
  • phpMyAdmin 4.5.1, 
  • OpenSSL 1.0.1, 
  • XAMPP Control Panel 3.2.1, 
  • Webalizer 2.23-04, 
  • Mercury Mail Transport System 4.63, 
  • FileZilla FTP Server 0.9.41, 
  • Tomcat 7.0.56 (with mod_proxy_ajp as connector), 
  • Strawberry Perl 7.0.56 Portable

XAMPP version 5.6.15  ประกอบไปด้วย

  • Apache 2.4.17, 
  • MariaDB 10.1.9, 
  • PHP 5.6.15, 
  • phpMyAdmin 4.5.1, 
  • OpenSSL 1.0.1, 
  • XAMPP Control Panel 3.2.1, 
  • Webalizer 2.23-04, 
  • Mercury Mail Transport System 4.63, 
  • FileZilla FTP Server 0.9.41, 
  • Tomcat 7.0.56 (with mod_proxy_ajp as connector), 
  • Strawberry Perl 7.0.56 Portable

ดังนั้น XAMPP version 5.5.30 กับ 5.6.15 ต่างกันตรงที่เวอร์ชั่นของภาษา PHP นอกนั้นเหมือนกันหมด 

ส่วนเวอร์ชั่น 7.0.2 ต่างกันตรงที่ไฮไลท์เลยครับ

XAMPP version 7.0.2 ประกอบไปด้วย
  • Apache 2.4.18, 
  • MariaDB 10.1.10, 
  • PHP 7.0.2, 
  • phpMyAdmin 4.5.1, 
  • OpenSSL 1.0.1, 
  • XAMPP Control Panel 3.2.1, 
  • Webalizer 2.23-04, 
  • Mercury Mail Transport System 4.63, 
  • FileZilla FTP Server 0.9.41, 
  • Tomcat 7.0.56 (with mod_proxy_ajp as connector), 
  • Strawberry Perl 7.0.56 Portable

ดังนั้นเราต้องเลือกใช้ XAMPP ให้ถูกเวอร์ชั่นสำหรับการใช้งานกับ CMS เจ้าต่าง ๆ เช่น Joomla, WordPress, Drupal ครับ

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การสร้าง Flash drive สำหรับลง Windows

สวัสดีครับ วันนี้เรามาเรียนวิธีการสร้าง Flash drive เอาไว้ลง Windows  กันครับ 

สมัยนี้หมดยุคที่จะลง Windows ด้วยแผ่น CD/DVD กันแล้ว เนื่องจาก Flash drive มีราคาถูกลงและใช้เวลาลง Windows เร็วกว่าใช้แผ่น CD/DVD เยอะครับ

สิ่งที่ต้องเตรียม
  1. Flash drive ขนาด 8 GB ขึ้นไป 
  2. ไฟล์ ISO ของ Windows  จะเป็น 32 bit หรือ 64 bit ตามใจท่านเลยครับ
  3. โปรแกรม Windows 7 USB DVD Download Tool ซึ่งสามารถ Download ได้ที่นี่
  4. เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องสำหรับติดตั้งโปรแกรม Windows 7 USB DVD Download Tool
** ที่ให้เตรียม Flash drive ขนาด 8 GB ขึ้นไปเพราะว่าไฟล์ ISO ของ Windows แบบ 64 bit มันใหญ่เกิน 4 GB ครับ **

ขั้นตอนการทำ

1. ติดตั้งโปรแกรม Windows 7 USB DVD Download Tool

1.1 ดับเบิลคลิกไฟล์ "Windows7-USB-DVD-Download-Tool-Installer-en-US.exe" ที่เรา Download มา


1.2 ถ้ามีหน้าต่างถามเรื่อง Security Warning ให้กด Run



1.3 กด Next



1.4 กด Install



1.5 รอจนเสร็จแล้วกด Finish



2. เสียบ Flash drive ของเราให้เรียบร้อย (ถ้ามีข้อมูลใน Flash drive ก็ backup ออกมาเก็บไว้ก่อนนะครับเพราะจะถูก format หายหมดครับ)

3. เปิดโปรแกรม Windows7 USB DVD Download Tool ขึ้นมา ปกติลงเสร็จจะมี icon อยู่บนหน้าจอเลย


4. ถ้ามีหน้าต่างถามเกี่ยวกับ User Account Control ขึ้นมาให้กด Yes

5. โปรแกรมใช้งานง่ายมากครับมี Step บอก เอ้าไป Step 1 กันเลย ... ฺBrowse หาไฟล์ ISO ของ Windows ที่เราต้องการจะลง จะเป็น Windows 7 / 8 / 8.1 / 10 ได้หมด 32 bit หรือ 64 bit ก็ไม่เกี่ยง ... จากนั้นกด Next



6. Step 2 เลือก USB Device



7. Step 3 เลือก Begin copying (ตรวจสอบดูว่าเลือก Flash drive ถูกอันนะครับ กรณีที่เสียบหลายอันพร้อมกัน)



8. ถ้ามีหน้าต่างถามว่าให้ Erase มั้ยก็ต้องเลือก Erase USB Device ล่ะครับ



9. โปรแกรมจะถามย้ำอีกทีเพื่อความมั่นใจ กด Yes ไปเลยยยย


10. รอ รอ รอ



11. เสร็จแล้ววว



Windows 7,8,8.1,10 ใช้วิธีทำเหมือนกันหมดนะครับ ขึ้นอยู่กับไฟล์ ISO ของท่านที่ดาวน์โหลดมา

ปัญหาที่พบ

ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ Windows 32 bit ในการทำ Flash drive จะสามารถทำ Flash drive สำหรับ Windows 32 bit ได้เท่านั้น ไม่สามารถทำ Windows 64 bit ได้ครับ ... ถ้าทำจะขึ้น Error 

"File copied successfully. However, we were unable to run bootsect to make the USB device bootable. lf you need assistance with bootsect, please click the "Online Help" link above for more information"

การสร้าง CD/DVD BOOT ด้วย KKD Multitiool V.6

KKD MultitoolV.6 คืออะไร ?

KKDMultitool V.6 คือเครื่องมือที่จะช่วยคุณสร้างแผ่น Boot หรือ USB Boot ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น เข้า Windows ปกติไม่ได้ หรือ Boot เข้าไปเก็บ (Backup) ข้อมูลเป็นต้น

KKD Multitool V.6 ทำอะไรได้บ้าง ?

- สร้าง CD/DVD Boot
- สร้าง USB Boot
- สร้าง Hard disk Boot (หมายถึงนำ KKD Multitool V.6 ไปไว้ใน Drive C: โดยไม่ต้องใช้ CD,USB ในการ Boot)
- โปรแกรม Bootice เครื่องมือเอนกประสงค์ในการจัดการ Harddisk
- โปรแกรม Wincontig สำหรับ Defragไฟล์ ISO
- โปรแกรม BGCustomize สำหรับออกแบบพื้นหลังเมนู Boot ตามต้องการ

ดังนั้นวันนี้เรามาทำ CD/DVD BOOT กันดีกว่าครับ

1. คลิกขวาที่ไฟล์ KKDMultitoolV.6.exe
2. เลือก Run as administrator


3. ถ้ามีหน้าต่าง User Account Control ขึ้นมาถามให้ตอบ Yes

4. คลิกเลือก CD BOOT จะได้หน้าต่างโปรแกรม Free ISO Burner ขึ้นมา 

5. คลิกปุ่ม Open  




6. จากนั้น Browse หาไฟล์ "KKDMultitoolV6.iso" ซึ่งจะอยู่ที่ "KKD Multitool V6\AutoPlay\Docs" 




7. เลือก Drive สำหรับเขียน CD/DVD > เลือก Speed ในการไรท์แผ่น ถ้ามีให้เลือกพยายามเลือกต่ำ ๆ นะครับประมาณ 4x > คลิกปุ่ม Burn



เรียบร้อยครับเท่านี้คุณก็จะได้แผ่น CD/DVD ที่สามารถ Boot ได้และมี KKD Multitool V.6 เอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินแล้วครับ

Download KKD Multitool V.6 ได้ตาม Link ด้านล่างจร้า


Part I
Part II
Part III


ขอขอบคุณ Mr.KKD ที่สร้างสรรค์ผลงานให้พวกเราได้ใช้กันครับ

ที่มา : www.gggcomputer.com และ www.easyosteam.com

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

KKD Multitool V.6 คืออะไร ?

KKD MultitoolV.6 คืออะไร ?

KKDMultitool V.6 คือเครื่องมือที่จะช่วยคุณสร้างแผ่น Boot หรือ USB Boot ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น เข้า Windows ปกติไม่ได้ หรือ Boot เข้าไปเก็บ (Backup) ข้อมูลเป็นต้น

KKD Multitool V.6 ทำอะไรได้บ้าง ?

- สร้าง CD/DVD Boot
- สร้าง USB Boot
- สร้าง Hard disk Boot (หมายถึงนำ KKD Multitool V.6 ไปไว้ใน Drive C: โดยไม่ต้องใช้ CD,USB ในการ Boot)
- โปรแกรม Bootice เครื่องมือเอนกประสงค์ในการจัดการ Harddisk
- โปรแกรม Wincontig สำหรับ Defragไฟล์ ISO
- โปรแกรม BGCustomize สำหรับออกแบบพื้นหลังเมนู Boot ตามต้องการ

MiniXP ,KKD7PE คืออะไร ทำงานอย่างไร



MiniXP (Windows XP) และ KKD7PE (Windows 7) คือ Windows แบบพกพาซึ่งตัวไฟล์นั้นจะเก็บไว้ในรูปแบบของไฟล์ image เวลาเรียกใช้งานโปรแกรมก็จะคลายไฟล์ไปไว้ที่แรม ทำให้เราสามารถใช้งาน Windows ได้โดยไม่จำเป็นว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะมี Harddisk อยู่หรือไม่นั่นเอง พูดง่าย ๆ ก็คือ ตัว Windows ทำงานอยู่บน RAM ของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นเอง

คำว่า PE นั้นมาจากคำว่า "Preinstallation Environment" นะครับ หาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

MiniXP หรือ KKD7PE นำมาใช้ประโยชน์อะไร ?

ผมสมมุติสถานการณ์อย่างนี้ครับว่า วันดีคืนดีคุณเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วปรากฎว่า Boot เข้า Windows ไม่ได้ ลองสารพัดวิธีแล้วยังไงก็เข้าไม่ได้ สรุปว่าต้อง format ลง windows ใหม่ แต่อยาก Backup งานที่อยู่บน Desktop งานที่อยู่ใน My Document เอาไว้จะทำอย่างไร ... เจ้า MiniXP หรือ KKD7PE นี่แหละครับพระเอกของงาน ท่านสามารถ Boot เครื่องเข้า MiniXP หรือ KKD7PE จากนั้นก็ Backup งานไปไว้ในที่ที่ต้องการได้ครับ

อีกกรณีนึง สมมุติว่าเครื่องคุณติด Virus ลบไม่ออกใน Windows แบบปกติ คุณก็สามารถใช้เจ้า MiniXP หรือ KKD7PE เพื่อ Boot เครื่องเข้าไปจัดการกับ Virus ได้

นอกจากนี้ใน MiniXP หรือ KKD7PE ยังมีโปรแกรมอื่น ๆ อีกมากมายที่ช่วยจัดการปัญหาต่าง ๆ เช่น Ghost32, PartitionWizard, Teamviewer, CPU-Z

ดังนั้น MiniXP หรือ KKD7PE จึงเหมาะกับช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ หรือ IT Support ทั้งหลายควรพกติดตัวไว้ครับ 

KKD Multitool V.6 ต่างจาก Hiren’s boot อย่างไร ?

หากท่านเคยใช้ Hiren’s boot ก็จะพบว่ามีความยุ่งยากพอสมควรที่จะทำให้ Boot ได้จากUSB ซึ่ง KKD Multitool V.6 ได้ช่วยเข้ามาเติมเต็มในจุดนี้ ไม่ว่าท่านจะเป็นมือใหม่หรือมือเก๋าการสร้างUSBบูตก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  ในส่วนของของโปรแกรมในเวอร์ชั่นหลัง ๆ นี้ของ Hiren’s boot จะเป็นโปรแกรมแบบฟรีแวร์ ผมจึงคัดเอาโปรแกรมที่คิดว่าช่างอย่างเรา ๆ นั้นต้องใช้ในการทำงานมาใส่ไว้แทนใน KKD Multitool V.6 ครับ 

รายชื่อโปรแกรมที่อยู่ใน MiniXP หรือ KKD7PE 









































** บางโปรแกรมใช้งานได้กับ KKD7PE เท่านั้นนะครับ ถ้าดับเบิลคลิกแล้วมันเงียบ ๆ ก็ไม่ต้องตกใจ **


Download KKD Multitool V.6 ได้ตาม Link ด้านล่างจร้า


ว่าง ๆ จะอัปให้ใหม่เด้อ ตอนนี้ link ตายหมดล่ะ



ขอขอบคุณ Mr.KKD ที่สร้างสรรค์ผลงานให้พวกเราได้ใช้กันครับ
ที่มา : www.gggcomputer.com และ www.easyosteam.com

วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

การสร้าง Flash drive Boot ได้ด้วย KKDMultitool V.6

KKD MultitoolV.6 คืออะไร ?

KKDMultitool V.6 คือเครื่องมือที่จะช่วยคุณสร้างแผ่น Boot หรือ USB Boot ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น เข้า Windows ปกติไม่ได้ หรือ Boot เข้าไปเก็บ (Backup) ข้อมูลเป็นต้น

KKD Multitool V.6 ทำอะไรได้บ้าง ?

- สร้าง CD/DVD Boot
- สร้าง USB Boot
- สร้าง Hard disk Boot (หมายถึงนำ KKD Multitool V.6 ไปไว้ใน Drive C: โดยไม่ต้องใช้ CD,USB ในการ Boot)
- โปรแกรม Bootice เครื่องมือเอนกประสงค์ในการจัดการ Harddisk
- โปรแกรม Wincontig สำหรับ Defragไฟล์ ISO
- โปรแกรม BGCustomize สำหรับออกแบบพื้นหลังเมนู Boot ตามต้องการ

ดังนั้นวันนี้เรามาทำ USB Boot สำหรับ Flash drive กันดีกว่าครับ

1. คลิกขวาที่ไฟล์ KKDMultitoolV.6.exe
2. เลือก Run as administrator


3. ถ้ามีหน้าต่าง User Account Control ขึ้นมาถามให้ตอบ Yes
4. คลิกเลือก USB BOOT


5. คลิก Yes



6. คลิก OK


7. พิมพ์ชื่อ Drive USB ให้ถูกต้อง > กด Enter


** ระวังพิมพ์ชื่อ Drive USB ผิดนะครับ ถ้าไม่มั่นใจให้เปิด My Computer ขึ้นมาดูก่อนว่า Flash drive ที่เราจะทำ USB Boot KKD นั้นเป็น Drive ไหน ไม่งั้นข้อมูลหายหมดนะครับ **

8. คลิก Yes


9. รอ รอ รอ


10. เสร็จแล้วววคลิก Yes เพื่อทดสอบกันเลยย 



11. ถ้าสำเร็จจะขึ้นหน้าต่างตามรูปครับ


ทิปและเทคนิค

  • ควร format Flash drive เป็นแบบ NTFS นะครับ จะได้เก็บไฟล์ได้ใหญ่เกิน 4 GB ได้ 
  • กรณีที่ format Flash drive เป็นแบบ NTFS แล้ว boot ไม่ได้ ลอง format เป็น FAT32 นะครับ
  • Flash drive ที่นำมาทำเป็น USB Boot ด้วย KKD นั้นยังสามารถเก็บข้อมูลได้ต่ออีกด้วยนะครับ ฉะนั้น ถ้ายังมีพื้นที่เหลือสามารถเก็บ Driver หรือ Software พื้นฐานที่จำเป็นได้ครับ
  • ตัว KKD Multitool นั้นโปรแกรม AntiVirus บางยี่ห้ออาจมองว่าเป็น Virus นะครับ ก่อนทำควรปิด AntiVirus ด้วยครับ


Download KKD Multitool V.6 ได้ตาม Link ด้านล่างจร้า


Part I
Part II
Part III


Link สำรอง โดย MediaFire

Part I
Part II
Part III


ขอขอบคุณ Mr.KKD ที่สร้างสรรค์ผลงานให้พวกเราได้ใช้กันครับ
ที่มา : www.gggcomputer.com และ www.easyosteam.com